แม่ฮ่องสอน ชายแดนตึงเครียดหนัก กองทัพบกไทย สั่ง กองกำลังว้าแดง เร่งถอนทหารพ้นฐานปฏิบัติการเขตผืนแผ่นดินไทย สั่งเช็กพิกัดเตรียมยิงสนับสนุน
25 พ.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง กองกำลังกองทัพกู้ชาติแห่งรัฐฉาน SSA เปิดเผยว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย บริเวณดอยหนองหลวง และ ดอยหัวม้า ด้านตรงข้ามพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กำลังอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างหนัก
โดยพบว่า กองทัพสหรัฐว้า UWSA ในพื้นที่บ้านคายหลวง ได้มีการเสริมกำลังทหารพร้อมอาวุธหนัก จำพวก ค.81 มม. และ ค.120 มม. เข้าเพิ่มเติมที่ฐานดอยหัวม้า ฐานหนองหลวง และ ฐานย่อยอีก รวม 5 ฐาน โดยทราบมาว่า ทางการไทยสั่งให้กองกำลังว้าแดง ถอนกำลังออกจากพื้นที่ไทย
ก่อนหน้านั้น ช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. 67 สมาชิกระดับสูงกองกำลังว้าแดง จำนวน 6 คน ได้เดินทาง มาพบปะกับเจ้าหน้าที่ไทย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อหารือปัญหาเรื่องปัญหายาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง และการรุกล้ำแผ่นดินไทยของกองกำลังว้า ในพื้นที่ดอยหัวม้าและพื้นที่ใกล้เคียง
โดยทางฝ่ายไทยได้ขอให้ว้าแดง ถอนกำลังที่รุกล้ำเข้ามาในเขตไทย โดยทางคณะผู้แทนของว้าแดง ได้รับข้อเสนอของฝ่ายไทยไปรายงานให้ กองบัญชาการกองทัพสหรัฐว้า UWSA ที่เมืองปางซาง และจะให้คำตอบต่อฝ่ายไทยภายใน 30 วัน หรือ 18 ธันวาคม 2567
ก่อนหน้านั้น ทราบมาว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2567 กองกำลัง ว้าแดง UWSA กองพลน้อยที่ 778 ได้สั่งการให้ กองกำลังติดอาวุธทหารว้าแดง ที่วางกำลังเผชิญหน้ากับทหารไทย รวบรวมพิกัดที่ตั้งของฝ่ายไทย และ กองทัพกู้ชาติแห่งรัฐฉาน SSA พร้อมถ่ายภาพฐานที่มั่นทหารไทย และรายงานให้ กองบัญชาการกองทัพว้า เมืองปางซาง เป็นการด่วน
ทางด้านการเคลื่อนไหวของหน่วยทหารไทย พบว่า ได้มีคำสั่งให้ กองพันปืนใหญ่ ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ทำการสำรวจจุดวางปืนใหญ่สนาม เพื่อเตรียมการยิงสนับสนุนต่อทหารราบของไทย หากมีการเข้ายึดฐานที่มั่นของว้าแดงที่อยู่ในเขตไทย
แหล่งข่าวของ กองทัพสหรัฐว้า หรือ ว้าแดง เปิดเผยกับสื่อ RFA ว่า สิ่งที่ทางการไทยเรียกร้องนั้น เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ โดยระบุว่า พื้นที่ที่ทางกองทัพว้าเข้ามาประจำนั้นไม่ได้อยู่ในเขตไทย และไม่ได้อยู่ในพื้นที่ควบคุมของกองทัพพม่าแต่อย่างใด จึงไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ และไม่ว่าใครจะมาร้องขอให้ถอนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ก็จะไม่สามารถทำตามได้ โดยระบุว่า ทางกองทัพว้านั้น แค่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของตัวเองเท่านั้น
ทางว้ายังระบุกับสื่ออีกว่า ไทยไม่ควรใช้การกดดันเช่นนี้ต่อกองทัพว้า เพราะว้าไม่ได้รุกล้ำอธิปไตยเข้ามายังฝั่งไทยแม้แต่คืบเดียว แต่ถ้าหากฝ่ายไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตว้า ทางว้าก็จะมีวิธีการตอบโต้
สำหรับพื้นที่ที่มีข้อพิพาทระหว่างกองทัพไทยกับกองกำลังว้าแดง เดิมสมัยกองทัพเมืองไต ที่มีขุนส่าเป็นผู้นำ ได้เข้าสร้างฐานที่มั่น บริเวณดอยหัวม้า และดอยเนินสูงข่มใกล้เคียงรวมจำนวน 5 ฐานปฏิบัติการ ในพื้นที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ต่อมา ทหารของกองทัพเมืองไตของขุนส่า ได้ถูกกองกำลังว้าแดง บุกเข้าโจมตีและยึดฐานเหล่านั้นเป็นของว้าแดง ซึ่งว้าแดงถือว่า ฐานเหล่านั้น ไม่ใช่ของไทย หากเป็นของไทย กองทัพเมืองไตของ ขุนส่า ย่อมไม่สามารถเข้าไปยึดครองได้
ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา ทางกองทัพไทย ได้มีการเจรจากับว้าแดง เพื่อขอให้ถอนกำลังออกจากฐานฯดังกล่าว แต่ทางว้าแดง ปฏิเสธ และยืนยันเสมอว่า หากทหารไทยบุกเข้าไปในฐานของว้า ทางว้าก็จะตอบโต้อย่างสาสม ทำให้เกิดปัญหาคาราคาซังต่อเนื่องมากว่า 10 ปี