วันที่ 20 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในห้องเช่าอพาร์ตเมนต์บ้านณัฏฐ์ 2 ถ.พิชัยฯ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี หมู่บ้านศศิกาแลนด์ หลังรับแจ้ง จึงได้ประสานไปยังแพทย์จากโรงพยาบาลสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าชั้นที่ 3 ห้องหมายเลขที่ 11 และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปพบว่า ผู้เสียชีวิตได้ใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกกับขาตั้งแอร์ และนำมาผูกคอจนเสียชีวิตบริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องเช่า ในสภาพลำตัวห้อยขางออยู่กับพื้นห้อง บริเวณพื้นหน้าห้องน้ำยังพบขวดเหล้าขาว 40 ดีกรี ซึ่งดื่มหมดแล้ว 1 ขวด น้ำอัดลม 1 ขวด น้ำตาลสด และแก้ววางอยู่ที่พื้นห้อง
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายวิทยา อายุ 28 ปี ชาว ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด อาชีพพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอหนองแค แพทย์จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาเพื่อชันสูตร จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงข้อความแชตภายในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ที่ส่งไปยังพี่สาวและเพื่อน ๆ
โดยข้อความที่ส่งไปให้พี่สาวเมื่อเวลา 23.06 น.มีข้อความว่า คันกูบอได้อยู่แล้วมึงกะอย่าลืมดูแลพ่อกับแม่เด้อ กูไปก่อนเด้อพี่สาว มึงกะดูแลจะขอนำเด้อ และยังมีข้อความที่ส่งให้เพื่อน ๆ ร่วมงานอีกในเวลา 00.13 น. ว่า ผมไปแล้วนะพี่ชาย ตั้งแต่ผมมาอยู่สระบุรี พี่คือพี่ชายที่ดีที่สุดคนนึงเลยสำหรับผม ขอบคุณทุกๆอย่างนะ พี่มีให้กับผมลาแล้วนะครับพี่ชายที่เคารพ ฝากบอกพี่…ด้วย ช่วงนี้ผมไม่ได้คุยกับเขาเลยผมไม่ได้โกรธอะไรเขาเลยยังรักและเคารพเขาเป็นพี่ชายเหมือนเดิม พี่ดูแลมันดีๆนะ… ผมเชื่อว่ามันจะเก่ง ผมลาจริงแล้วนะพี่ชาย ทางด้านเจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปและจดบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรยัง รพ.สระบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
จากการสอบถามพี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องชายของตนเองได้ส่งข้อความมาให้ตนเองช่วงเวลา 5 ทุ่มกว่าว่าถ้าอุ้มไม่อยู่แล้วฝากดูแลพ่อกับแม่ด้วยนะ ดูแลตัวเองด้วยนะพี่สาวไปแล้วนะ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เปิดโทรศัพท์ดู มาเปิดโทรศัพท์อีกทีตอนตี 2 ครึ่ง และเมื่อเห็นข้อความก็พยามติดต่อโทรหาแต่ก็ติดต่อไปไม่ได้ จึงได้โทรบอกกับพ่อแม่ที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด ให้โทรหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นได้ติดต่อหาเพื่อน ซึ่งเพื่อนก็บอกว่าอุ้มได้ทักหาและบอกว่าเครียดและเมา ซึ่งเพื่อนก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน ตนเองจึงให้แฟนมาดูที่ห้องตอนเช้าพอเปิดประตูเข้าไปก็มาพบว่าอยู่ในสภาพนี้แล้ว
น้องของตนเองไม่มีแฟนและไม่เคยมีปัญหาครอบครัว จะโทรหาคุยกับพ่อและแม่ตลอด และก็เพิ่งคุยกับแม่ว่าจะกลับบ้านช่วงปีใหม่นี้ น้องยังบอกแม่ว่าปีนี้น้องจะได้โบนัสเยอะนะ และถามแม่ว่าแม่อยากได้อะไรไหม อยากได้เสื้อแขนยาวไหม โดยส่วนตัวแล้วตนเองคิดว่าน้องน่าจะเครียดเรื่องรถกระบะที่ออกมาใหม่ เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา ซึ่งตอนที่ยังไม่ได้ออกรถที่ทำงานก็มีโอทีให้ทำ แต่เมื่อออกรถมาแล้วกลับไม่มีโอทีให้ทำ เหมือนกับว่าน้องอาจจะชักหน้าไม่ถึงหลังหรือเปล่า ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ซึ่งน้องเคยพูดกับตนเองว่าค้างค่างวดรถมา 1 เดือนแล้ว ซึ่งน้องของตนเองปกติก็จะไม่ดื่มเหล้า ที่มากินในครั้งนี้น่าจะเกิดจากความเครียด
ทางด้านนายบี เพื่อนร่วมงานเล่าว่า ตั้งแต่อุ้มออกรถมาแล้วดูเหมือนว่า เขาจะเครียด ๆ ไปเลย ชวนไปไหนก็ไม่ไป ชวนไปนั่งเล่นก็ไม่ไป แต่ก็ไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง ซึ่งตนเองก็คิดว่าเพื่อนน่าจะเครียดจากเรื่องรถที่ออกมา เนื่องจากว่าตั้งแต่ออกรถมาเพื่อนจะมีอาการเงียบเฉย ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาหลายเดือน
